ประวัติ โจ ณัฐวุฒิ นักมวยที่ไม่มีใครรู้จัก จากค่าตัว 7,000 สู่แชมป์โลก 2 รุ่น ล่าสุดถูก อองตวน แจ้งความหมิ่นประมาทเรื่องเงิน ว่าแต่เส้นทางชีวิต โจ ณัฐวุฒิ คือใคร มาติดตามกัน
ชื่อของ “โจ ณัฐวุฒิ” กลับมาถูกพูดถึงอีกครั้ง หลังจากถูก อองตวน ปินโต นักมวยและอินฟลูชื่อดัง เจ้าของบริษัท UPR Vision แจ้งความหมิ่นประมาท ซึ่ง โจ ณัฐวุฒิ เปิดใจคิดว่าเรื่องเคลียร์กันไปแล้ว เพราะก่อนหน้านี้บริษัทได้โอนเงินส่วนที่เหลือครบถ้วน ตนจึงเข้าใจว่าทุกอย่างจบลง ทั้งนี้ แม้เงินจะเคลียร์แล้ว แต่ทางบริษัทกลับไม่ส่งเอกสารยืนยันการเงินให้ โจ ณัฐวุฒิ จึงเลือกไม่ติดตามต่อ คิดว่าแยกย้ายไปทำมาหากินได้ แต่กลับถูกแจ้งความในภายหลัง เจ้าตัวยืนยันว่าพูดความจริงทุกอย่าง และพร้อมให้ศาลตัดสิน
เครดิตภาพ Instagram jonattawut
อย่างไรก็ตาม หลังเป็นประเด็นข่าวทำให้มีคนสงสัยและอยากรู้ว่า ประวัติ โจ ณัฐวุฒิ นักมวยไทยที่ไม่มีใครรู้จักสู่แชมป์โลกคนนี้คือใคร ?
ย้อนดูประวัติ โจ ณัฐวุฒิ เกิดเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2532 นักมวยจอมเก๋าย่างเข้าสู่ 36 ปี ด้วยน้ำหนัก 70.10 กิโลกรัม ส่วนสูง 178 เซนติเมตร ถือเป็นยอดนักชกระดับตำนานผู้ครองแชมป์โลก Lion Fight สองรุ่น และแชมป์โลกมวยไทย WMC เป็นที่ยอมรับว่าเป็นหนึ่งในนักมวยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในวงการ ด้วยสไตล์การชกที่ดุดันและเดินหน้าบู๊แบบไม่มีถอย
เครดิตภาพ Instagram jonattawut
เส้นทางนักมวยของ โจ ณัฐวุฒิ เริ่มต้นที่จังหวัดนครราชสีมา เมื่อตัดสินใจเปลี่ยนจากการเล่นฟุตบอลมาสู่เวทีมวยไทยตั้งแต่อายุเพียง 10 ขวบ จนกระทั่งอายุ 18 ปี หรือในในปี 2551 เขามุ่งมั่นทุ่มเทให้กับเส้นทางสายมวยอย่างเต็มตัว โดยใช้ชื่อในการชกมวย “ธนะศักดิ์ ส.บุญเลี้ยง” หรือ “เพชรชมพู ท็อปคิงส์บ็อกซิ่ง” ได้ค่าตัวเพียงไฟต์ละ 7,000 บาท แม้จะมีฝีมือโดดเด่นด้วยลูกแข้งที่หนักหน่วง แต่กลับไม่ประสบความสำเร็จในเมืองไทยเท่าไหร่นัก
หลังจากนั้น โจ ณัฐวุฒิ จึงตัดสินใจวางมือจากการชกมวย ย้ายไปทำงานที่เกาะพงัน ทั้งในร้านอาหารและโรงแรม จนกระทั่งอายุ 23 ปี หรือปี 2556 เขาก็ได้เดินทางไปทำงานที่สหรัฐอเมริกา เริ่มจากการเป็นผู้ช่วยกุ๊กที่รัฐโคโลราโด และจุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นเมื่อได้พบกับ "ขุนพล เดชคำภู" อดีตนักมวยไทยชื่อดังที่มียิมในแอตแลนต้า กระทั่งทำให้ได้รับโอกาสเป็นครูมวย ก่อนจะได้โชว์ฝีมือในฐานะมวยแทนบนเวที Lion Fight และสร้างความประทับใจแฟนมวยด้วยชัยชนะ คอสโม อเล็กซานเดร แบบเหนือความคาดหมาย
เครดิตภาพ Instagram jonattawut
หลังจากนั้น โจ ณัฐวุฒิ ก็ชกชนะติดต่อกัน 3 ไฟต์ จนกระทั่งคว้าแชมป์รุ่น 154 ปอนด์มาครองได้สำเร็จ ป้องกันแชมป์ได้ถึง 6 ครั้ง ก่อนจะขยับขึ้นไปคว้าแชมป์รุ่น 160 ปอนด์ได้อีกหนึ่งเส้น ซึ่งสถิติการชกในอเมริกาที่น่าสนใจคือชนะ 9 จาก 10 ไฟต์ โดยแพ้เพียงไฟต์เดียวให้กับ รีเกียน เออร์เซล ในเดือนพฤษภาคม 2559 และเป็นคนที่สามารถคว้าแชมป์ Lion Fight ถึงสองรุ่น ซึ่งเป็นรายการชั้นนำของอเมริกา ทำให้ชื่อเสียงของ “ โจ ณัฐวุฒิ” เป็นที่รู้จักและโด่งดังในระดับโลก
เครดิตภาพ Instagram jonattawut
เส้นทางชีวิตของ โจ ณัฐวุฒิ ที่อเมริกา เขาได้เซ็นสัญญากับ ONE Championship และเปิดยิม United Training Center ที่แอตแลนต้า ก่อนจะโดนพิษโควิดทำให้ต้องปิดยิมและผันตัวเป็นเทรนเนอร์อิสระ
กระทั่ง 22 กรกฎาคม 2565 โจ ณัฐวุฒิ กลับมาชกมวยไทย กับ จามาล ยูซูพอฟ นักชกตุรกี แต่ก็พ่ายแพ้ และไฮไลท์สำคัญคือการขึ้นชิงแชมป์โลกมวยไทยกับ "ตะวันฉาย พีเค.แสนชัย" แม้จะพ่ายแพ้ไปแต่ก็สามารถสร้างการแข่งขันที่สูสีจนแฟนมวยต้องลุ้นกันจนวินาทีสุดท้าย ชื่อของเขาจึงได้รับการชื่นชมจากแฟนมวยชาวไทยอย่างล้นหลาม ปัจจุบัน โจ ณัฐวุฒิ เป็นนักมวยที่พร้อมจะพิสูจน์ฝีมือบนเวทีระดับโลกอย่าง วัน แชมเปียนชิพ (ONE Championship) และพร้อมรับมือกับคู่ต่อสู้ทุกราย
ดูสถิติการชกของ โจ ณัฐวุฒิ ในวัน แชมเปียนชิพ
เครดิตภาพ วัน แชมเปียนชิพ
ทั้งหมดนี้คือ ประวัติ โจ ณัฐวุฒิ ตำนานนักสู้ผู้ไม่ยอมแพ้ หนึ่งในนักมวยระดับโลกที่มีความสำเร็จอันโดดเด่น ด้วยการคว้าแชมป์โลกมวยไทย WMC และสร้างประวัติศาสตร์บนเวที Lion Fight ด้วยการครองบัลลังก์แชมป์โลกถึงสองรุ่นน้ำหนัก ปัจจุบันเขาสังกัดค่าย ONE Championship และสร้างผลงานที่น่าประทับใจมาอย่างต่อเนื่อง
เครดิตภาพ Instagram jonattawut
